วงจรเตือนไฟแบตเตอรี่ตก เป็นวงจรอิเล็คทรอนิคส์ชนิดหนึ่ง ที่นำไปใช้งานเกี่ยวกับการตรวจสอบไฟ จากแบตเตอรี่ถ้าแบตเตอรี่มีไฟต่ำกว่าที่เรากำหนดไว้ วงจรนี้จะส่งเสียงเตือนให้เราทราบทันที การใช้งานก็ง่ายเพียงแต่เอาไปต่อแบตเตอรี่ที่เราต้องการให้เตือน วงจรนี่สามารถปรับระดับการเตือนได้ตั้งแต่ 7-8 โวลต์ จนถึง 12โวลต์ โดยปรับที่วอลุ่มเกือกม้า แต่โดยทั่วไปควรปรับให้เตือนในระดับ 10 โวลต์ สำหรับแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์ ทั่วไป
อุปกรณ์
- ตัวตานทาน 10 k 2 ตัว , 5 k 2 ตัว , 12 k , 33 k , 6.8 k , 120 k , 300 k
- ตัวตานทานปรับค่าได้ 0-10 k แบบเกือกม้า
- ทรานซิสเตอร์ เบอร์ C 458 4 ตัว , เบอร์ C 9012 1 ตัว
- คาปาซิเตอร์แบบมีขั้ว 22/16 1 ตัว
- คาปาซิเตอร์แบบไม่มีขั้ว 0.0015 2 ตัว
- ไดนามิคบัซเซอร์ 1 ตัว
- แผ่นพริ้น อเนกประสงค์
การทำงาน
R1, R2, VR1 ต่อเป็นวงจรแบ่งแรงดันให้ R3, R4 โดยมี VR1 เป็นเกือกม้าที่ปรับโวลต์ว่าต้องการกี่โวลต์ให้วงจรทำงาน R3, R4 ต่อแบ่งแรงดันเพื่อให้ TR1 ทำงาน จากการแบ่งแรงดันระหว่าง R3, R4 ,TR1 จะทำงานที่ประมาณ 3.8 โวลต์ ในภาวะปกติที่แบตเตอรี่มีไฟอยู่ แรงไฟที่จุดแบ่งแรงดันจะมีไฟประมาณ 3.8 โวลต์ ขึ้นไปดังนั้น TR1 จึงทำงานช๊อตไฟที่ขา C ของ TR1 และขา B ของTR2 ลงกราวด์เมื่อขา B ของ TR2 ไม่มีไฟ TR2 จึงไม่สามารถนำกระแสได้ ชุดกำเนิดเสียงซึ่งประกอบด้วยชุด TR3, TR4 และ TR5 จึงไม่สามารถที่จะกำเนิดเสียงได้ ไดนามิคบัซเซอร์ ก็จะไม่มีเสียงดังออกมาแต่เมื่อใดแรงไฟต่ำกว่าแรงไฟที่เรากำหนดที่จุดเปรียบเทียบจะมีแรงไฟต่ำกว่า 3.8 โวลต์ TR1 ก็จะไม่นำกระแสที่ขา C ของ TR1 และขา B ของ TR2 จึงไม่ถูกช๊อตลงกราวด์ TR2 จึงสามารถทำงานได้ โดยช๊อตไฟที่ขา C ของ TR2 ลงกราวด์ ทำให้ TR3,TR4 และ TR5 ทำงาน และไดนามิคบัซเซอร์ก็จะส่งสัญญาณเสียงดังออกมา
การทดสอบ
ให้ต่อเข้าประมาณ 9-12 โวลต์ แล้วปรับวอลุ่มเกือกม้า VR1 ถ้าปรับได้แล้วดัง และปรับไปอีกข้างหนึ่งหยุดดังเป็นอันว่าใช้ได้
การนำไปใช้งาน
ถ้าเราต้องการให้แบตเตอรี่ 12 โวลต์ เมื่อไฟต่ำกว่า 12 โวลต์ ให้มีเสียงเตือนออกมา ให้หาแหล่งจ่ายไฟ 10 โวลต์ มาป้อนเข้าที่ขั้วบวก และกราวด์ของวงจร ปรับ VR1 ลงมาจนไม่มีเสียงแล้วค่อยๆปรับขึ้นไปถึงจุดที่เริ่มมีเสียง เมื่อปรับแต่งเสร็จก็นำไปต่อกับแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ได้เลย วงจรนี้จะตั้งให้เตือนต่ำสุด 7.5 โวลต์ และสูงสุด 12 โวลต์ เท่านั้น
การตรวจซ่อม
หากวงจรไม่ทำงานตามที่กล่าวมาให้ทำการตรวจซ่อมดังต่อไปนี้
1.หากไม่มีเสียงดังให้ช๊อตขา C ของ TR2 ลงกราวด์ ถ้าไม่มีเสียงดังให้เช็คชุดกำเนิดความถี่ซึ่งประกอบด้วย TR3,TR4 ,TR5 ,R6, R7, R8, R9, C1 ,C2 และไดนามิคบัซเซอร์ ถ้ามีเสียงดังแสดงว่าชุดกำเนิดความถี่ไม่เสีย
2.ช๊อตขา B ของ TR1 ลงกราวด์ถ้าไม่มีเสียงดังให้เช็คTR1 อาจช๊อต C-E TR2 อาจขาด C-E ขาด B-E R5 อาจขาด ถ้ามีเสียงดังให้เช็ค R1, R2 ,R3, R4 ,R5 อาจใส่ผิด
3.หากมีเสียงดังค้างแม้จะปรับวอลุ่มเกือกม้า VR1 ไปทางไหนก็ตามให้ตรวจดู VR2
อาจช๊อต C-E TR1 อาจขาด B-E ขาด C-E ช๊อต B-E R1, R2 ,R3, R4 และ R5 อาจใส่ผิดค่า